แหกตาดูความจริง!?! "ชัยภูมิ" คนดีหรือไม่ดี ดูเงินหมุนเวียนในบัญชีเขาซะก่อน ไปทำอะไรมาทำไมรวยได้ขนาดนี้?? (รายละเอียด)

จากกรณีข่าวที่เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจบ้านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ปร...





จากกรณีข่าวที่เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจบ้านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำกาย ยิง นายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 17 ปี นักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ เสียชีวิต โดยรายงานว่า ขณะตั้งจุดตรวจยาเสพติดด่านทหารสามแยกรินหลวง ได้เรียกรถยนต์ ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ทะเบียน ขก 3774 เชียงใหม่ เพื่อตรวจค้น พบยาบ้า 2,800 เม็ด อยู่ในกรองอากาศ จึงจับกุมนายพงศ์นัย แสงตะล้า อายุ 19 ปี คนขับรถไว้ได้


ส่วน ชัยภูมิ ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับได้วิ่งหนีห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ทหารวิ่งติดตามใกล้ถึงตัว แต่นายชัยภูมิ เงื้อระเบิดในมือจะขว้างใส่ ทหารจึงยิงป้องกันตัว 1 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมยึดลูกระเบิดชนิดขว้าง 1 ลูก ที่ตกอยู่ใกล้มือผู้เสียชีวิต
หลังเกิดเหตุผู้ที่รู้จักกับชัยภูมิ และกลุ่มชาติพันธุ์ที่เคยทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้ตาย ต่างเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่า นายชัยภูมิ ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด เป็นเด็กดีที่หาเลี้ยงครอบครัว และที่ผ่านมาได้ทำกิจกรรมทางสังคมมาโดยตลอด ไม่เคยข้องเกี่ยวกับอบายมุขใดๆ

 ทั้งนี้ทาง (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่3ตั้งกรรมกาสรสอบสวนในกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร วิสามัญ นาย ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ จนเป็นที่วิพากาวิจารณ์กันอย่างหนาแน่ ว่าได้กระทำการเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ พร้อมทั้งมีการตั้งคณะกรรมการอีกชุดเพื่อการสอบสวนอีกชุดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและความยุติธรรมที่สุด
และพลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาค3 กล่าวแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวด้วยว่า นายชัยภูมิมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินและการใช้จ่าย ทั้งนี้ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นการตั้งด่านตามปกติสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดซีซีทีวี

“ลองคิดดู ตามหลักพื้นฐาน เด็กคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีอาชีพ เป็นหลักแหล่งอะไร มีความเคลื่อนไหว ในเรื่องเชื้อชาติ เป็นสิ่งดี แต่เขาไปพลาดพลั้ง เข้ามาสู่วงการยาเสพติดนี้ได้อย่างไร เขาหลงผิดไปได้อย่างไร”
และอีกทั้งสถานที่ตั้งด่านเป็นที่แจ้ง ไม่ได้ลึกลับ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นนั้นไม่มีอาวุธ แต่พบว่าบุคคลในรถมีพิรุธจึงเชิญตัวออกมา จากนั้นก็ตรวจค้นรถอย่างละเอียด จนไปเจอแหล่งซ่อนยาเสพติด ขณะที่นายพงศ์นัย แสงตะล้า ที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ไม่ทราบว่าในรถมียาเสพติด แต่ตัวผู้เสียชีวิตทราบว่ามียาเสพติดจึงวิ่งหนี ก่อนเตรียมหันมาจะขวางระเบิด เจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัว 1 นัด อย่างไรก็ตามจากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะดูแลครอบครัวในฐานะคนไทยด้วยกันต่อไป

“คดีนี้ว่าด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่การใส่ร้าย รวมทั้งผู้บังคับหน่วยสอนลูกน้องมาอย่างดี มีการฝึกอบรมทบทวนการตรวจค้นเสมอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ยิงไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เขามีความตั้งใจทำงาน ส่วนตัวคิดว่าการกระทำดังกล่าวสมเหตุสมผล เพราะเป็นการป้องกันตนเอง โดยพยายามยิงจุดไม่สำคัญ แต่ก็เกิดความสูญเสีย ดังนั้นผมขอแสดงความเสียใจต่อกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ทุกอย่างต้องว่าไปตามรูปคดี และพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย”
ส่วนทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจเคยจับกุมชาวเขาเพื่อนนายชัยภูมิลักลอบค้ายาบ้ารายย่อย และให้การซัดทอดนายชัยภูมิ และตำรวจล่อซื้อยาบ้าจากนายชัยภูมิ โดยนำเงินลงบันทึกประจำวันไว้ และโอนเงิน 4,000 บาทเข้าบัญชีนายชัยภูมิ เพื่อให้นำยาบ้ามาส่ง 400 เม็ด นายชัยภูมิมาส่งด้วยตัวเอง แต่ไหวตัวทันซิ่งรถหลบหนีไปได้ นายชัยภูมิที่ทุกคนมองว่าเป็นเด็กนักเคลื่อนไหว นักต่อต้าน นั่นคือหน้าฉาก แต่เส้นทางการเงินกลับเกินเด็ก

“ทุกอาทิตย์จะโอนเงินครั้งละหลักพันบาท สูงสุด 80,000 บาท อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ตลอดเรื่อยมาเกือบปี การเคลื่อนไหวนี้เป็นเหตุให้ต้องสงสัยมากแล้ว ชีวิตประจำวันของชัยภูมิเลี้ยงดูเพื่อนฝูง ใช้จ่ายเงินมือเติบเกินเด็กที่เรียน ม.4 พ่อเสียชีวิต แม่ป่วยทางจิต ทางตำรวจทำงานกันอย่างลับๆ จนพบว่านายชัยภูมิถูกวิสามัญฯ คดีก็จบ”
และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 60 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่ทหารได้วิสามัญ นายชัยภูมิ อายุ 17 ปี ชาวลาหู่ บริเวณจุดตรวจยาเสพติดด่านทหารสามแยกรินหลวง จ.เชียงใหม่ โดยผบ.ทบ.รายงานมาเป็นการป้องกันตัว




Cr : http://www.siamnews.com/view-2220043.html
  

You Might Also Like

0 comments